ปี 2022 เที่ยวต่างจังหวัดทุกเดือน ซื้อของแบรนด์เนมหกหลัก แต่ยังมีเงินสำรองฉุกเฉิน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ให้ตัวเอง ต่อด้วยปี 2023 ที่เดินป่าทุก 2 วีค และเมษานี้จะไป Everest
“เมย์เอาเงินมาจากไหน?”
บทความนี่จะรีแคปการหาเงิน และวิธีบริหารเงินทั้งหมดให้
เริ่มจากหลังเรียนจบ
เมย์ได้รับโจทย์จากที่บ้านว่า หลังเรียนจบ ขออย่างเดียว คือ เลี้ยงดูตัวเองให้ได้ แบบไม่ต้องแบมือขอเงินที่บ้านอีก
โชคดีที่ไม่มีหนี้สิน แต่ตอนเรียนจบก็ไม่ได้มีเงินติดตัว ทุกอย่างเริ่มจาก 0
หางานทำ
สิ่งที่ทำได้คือเริ่มหางาน หารายได้
ตอนแรกจะกลับบ้านไปหางานที่ต่างจังหวัดทำ บังเอิญว่าเดือนสุดท้ายของการตัดสินใจ มีพี่ ๆ เสนองานมาให้ ก็เลยลองทำดู
ทำกระแสเงินสดให้เป็นบวก
จบใหม่ ได้เงินเดือนไม่เยอะ พอมีพอกิน
พยายามทำให้ทุกเดือนไม่ติดลบ ด้วยวิธี เมื่อได้เงินมา จะตัดจ่ายค่าใช้จ่าย fix cost ก่อน เหลือเท่าไหร่ ค่อยแบ่งเป็นยอดค่าใช้จ่ายรายวัน
มีน้อยก็กินน้อย ไม่มีเงินเหลือก็ไม่ช้อปปิ้ง
ลงทุนกับตัวเอง
เมื่อมีรายได้มากขึ้น เช่น เงินเดือนขึ้น ได้โบนัส มีรายได้จากงานเสริม เมย์จะลงทุนความรู้ให้ตัวเองก่อน
ซื้อหนังสือมาอ่าน (โดยเฉพาะหนังสือการเงิน) ลงเรียนคอร์สที่เราจ่ายไหว
แบบฟรีก็มี ยูทูป พอดแคส ฟังหมด
เมย์มีโอกาสได้อ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูก ตั้งแต่เรียนจบ พอเริ่มทำงานก็ติดตาม Money Coach และเล่นเกมกระแสเงินสด เพื่อให้เข้าใจคอนเซปต์การจัดการเงิน
ตอนนั้นไม่ได้มีเงินเหลือออมเยอะ เน้นศึกษา และลองทำเท่าที่ตัวเองมี คิดไว้ว่าซ้อม เผื่อมีเงินเยอะจะได้พร้อม
ใช้ชีวิตด้วยต้นทุนที่ต่ำ
ทำงานไปเรื่อย ๆ แม้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เมย์จะพยายามใช้ชีวิตให้ fix cost ต่ำ เนื่องจากไม่อยากให้เงินเป็นปัจจัยบังคับในการทำงาน
โดยเฉพาะคอนเทนท์บิวตี้ อินดี้แหละ ทำเพราะชอบจริง ๆ ไม่อยากให้เงินมาบังคับเราได้
หารายได้เสริม
เมื่อไม่มีเงินมาเป็นปัจจัยบังคับในการทำงานรีวิว เมย์ก็ทำในแบบที่เป็นตัวเอง จน Minimayy ค่อย ๆ โตขึ้น มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ
เมื่อเป็นตัวเอง เราจะทำได้นาน ปีนี้ Minimayy เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว เดี๋ยวมาแชร์วิธีคิดและวิธีทำงานอีกที ว่าทำยังไงให้มีลูกค้าตั้งแต่ 6 เดือนแรก จนถึง 10 ปีผ่านไปก็ยังขายได้ แถมยังเป็นตัวเอง
เก็บเงิน
เมื่อมีรายได้เข้ามาเพิ่ม ก็เริ่มเก็บเงิน เป็นช่วงที่จะลาออกจากงานประจำด้วย เลยเข้มงวดกับตัวเองเรื่องการออม
พอออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ยิ่งเข้มงวด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เงินไม่พอใช้ จนต้องกลับไปทำงานประจำ หรือรับงานรีวิวในแบบที่เราไม่ชอบ
และกลัวตัวเองจะหมดความอิสระ จนไม่กล้าใช้เงินกับอะไรนอกจากทำงาน และหาความรู้
ทำ Financial Statement
เมย์อัพเดตความรู้เรื่องการเงินอยู่ตลอด แต่เพิ่งมาทำ Financial Statement ของตัวเองจริงจัง เมื่อปี 2022
ทำให้เห็นภาพรวมว่าทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดของเรามีอะไรบ้าง รายรับเท่าไหร่ รายจ่าย fix cost เท่าไหร่ เมย์ทำง่าย ๆ ตามเกมกระแสเงินสดที่เคยเล่น
วิธีเล่นเกมกระแสเงินสด คือให้โฟกัสการสร้าง Passive Income ต่อเดือน ให้มากกว่ารายจ่ายต่อเดือน เมย์ก็เอามาใช้กับชีวิตจริง
สมองก็คิดแต่ว่า อะไรบ้างที่ทำแล้วจะสร้าง Passive Income ให้เราได้ คิดไปเรื่อย ๆ งานไหนที่ลอยเข้ามาในหัว แต่ไม่ใช่ Passive ตัดทิ้ง จนกระทั่งได้ไอเดียขายฟอนต์ลายมือ
ตอนนั้นตั้งใจว่า Passive Income เพิ่มเดือนละ 1-3 พันบาทก็พอใจแล้ว ปรากฎว่าขายดิบขายดี ยอดขายโตมาก Margin ก็สูง กระแสเงินสดเป็นบวกเยอะ
จากคนที่ไม่กล้าใช้เงินเพราะกลัวความอิสระจะหายไป กลายเป็นบอกเพื่อนว่า “พาใช้เงินหน่อย อยากลองใช้เงิน” ปีที่แล้วเลยซื้อดะ
ลองซื้อจนตกตะกอนกับตัวเองว่า เราไม่ได้มีความสุขกับการซื้อทุกอย่างขนาดนั้น แฮปปี้กับการมีเงินสำรอง ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของตัวเองได้ทุกเมื่อมากกว่า
โดนป้าเตือนสติด้วยแหละ เลยสำนึก 55555
นำเงินไปลงทุน
ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอย่างเดียวน้าาาา ระหว่างนั้นเมย์ลงทุนเพิ่ม กดเครื่องคิดเลข คำนวณผลตอบแทนเป็นว่าเล่น และเงินที่ใช้ไป ส่วนนึงคือดอกผลที่ได้จากการลงทุน เงินต้นยังอยู่
ศึกษาเรื่องการเงินอย่างจริงจัง
จากเด็กคนนึงที่เริ่มต้นการเงินจากศูนย์ ไม่กล้าใช้จ่าย จนวันนี้อยากกิน อยากซื้อ หรืออยากไปไหน ก็จ่ายให้ตัวเองได้
เลยทำให้เมย์เชื่อมั่นในความรู้ทางการเงินมาก ๆ (สวดคาถาเงินล้านควบคู่ไปด้วย 5555)
ตอนนี้เลยลงเรียนจริงจังให้ตัวเองเข้าใจเรื่องการเงินแบบครบลูป ไว้ขยายพอร์ตให้ตัวเอง เดี๋ยวทยอยสรุปความรู้ที่เรียนมาเป็นบทความให้อีกที