ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม เรามีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดอีเว้นท์ถึง 3 งาน ทำงานแบบ Multitasking สุด ๆ นอกจากจะประทับใจในเนื้องาน ในความเป็น Teamwork เรายังได้ข้อคิดสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตด้วย
ซึ่งเราคิดว่า หากเราโฟกัสชีวิตแบบเดียวกับที่เราโฟกัสงาน ชีวิตเราก็น่าจะก้าวไปถึงจุดที่เราต้องการได้ไม่ยาก
1. เขียนภาพรวมที่อยากให้เกิดขึ้น
เราอยากให้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ยิ่งเราระบุได้ชัดเจนมากเท่าไหร่ การทำงานในขั้นตอนต่อไปก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้น
2. ลงรายละเอียดงานแต่ละส่วน
นำภาพรวมมาแบ่งย่อยตามส่วนงาน แล้วลงรายละเอียดว่า ถ้าเราต้องการให้วันงานมีสิ่งนี้ ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง และเราต้องลงมือ “ทำอะไรบ้าง”
ในส่วนของการลงรายละเอียดต้องใช้ประสบการณ์พอสมควร ไม่ว่าจะจากประสบกาณ์ของคนอื่นที่เราสามารถเปิดอ่านหรือสอบถามได้ หรือไม่ก็ประสบการณ์ตรงของตัวเอง แต่ก็ต้องค่อย ๆ สะสม
3. เขียน Timeline สิ่งที่ต้องทำ
นำรายละเอียดงานในส่วนต่าง ๆ มาลงปฏิทิน เพราะเราต้องรู้ด้วยว่า “เวลาไหนควรทำอะไร” เนื่องจากหลายส่วนงานมีความเชื่อมต่อกัน ต้องดำเนินการส่วนนี้ก่อน ส่วนนี้ถึงจะเริ่มได้ หรืองานส่วนนี้ยังเริ่มไม่ได้ เพราะงานส่วนนั้นยังไม่เสร็จ เป็นต้น
บางงานอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องทำทุก 6 เดือน ทุก 3 เดือน ทุกเดือน หรือทุกวัน .. ทำให้เห็นสิ่งเหล่านี้ให้ได้
4. โฟกัสงานตามช่วงเวลาที่กำหนด
ปรับเปลี่ยนได้ตามบริบท แต่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง และควรมั่นคงใน “เป้าหมาย” ที่เราตั้งไว้ตั้งแต่ต้น
งานอีเว้นท์ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ ชีวิตของเราก็เช่นกัน มีแต่คำว่า “ดีที่สุดในจุดที่ยืน”
การโฟกัสและทำช่วงเวลานั้นให้ดีที่สุด จะทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก รู้ตัวอีกทีก็เสร็จงาน รอยิ้มให้กับความสำเร็จของตัวเองได้เลย
5. ไม่ลงมือทำ เท่ากับ “ขี้เกียจ”
ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ เพราะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราพิสูจน์แล้วว่า ถ้าเราจะทำ มันก็ทำได้ ต่อให้เหนื่อยสายตัวแทบขาด (ร้าวไปทั้งตัว) แค่ไหน เราก็ยังสามารถตื่นเช้าไปทำงาน ไปรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองได้ วันงาน วัน Setup ก็ตื่นเช้า ใช้พลังงานทั้งวัน และอยู่จนดึกได้
ดังนั้น อย่ามัวแต่ขี้เกียจ วางแผนแล้วลงมือทำซะ แล้วชีวิตจะดี
Do it Now!!
