ช่วงหลังเมย์ไม่ค่อยได้เข้าฟังงานสัมมนา เพราะรู้สึกว่าตัวเองฟังเยอะ ลงมือน้อย จึงโฟกัสกับการลงมือทำเป็นหลัก
แต่งาน สรุปเทรนด์ Digital Marketing ปี 2023 ของ Uppercuz ไม่ไปไม่ได้
เหตุผลที่อยากไป
เมย์ชอบฟัง Marketing Insight มากกว่า Creator Insight เพราะสามารถนำมาวางแผน
- หาจุดยืนของตัวเอง ว่าเราอยากเป็น Creator แบบไหน
- ปัจจัยการเลือกจ้าง Influencer/Creator ของแบรนด์
- เราจะช่วยให้แบรนด์ขายของได้อย่างไร
- ถ้าเรามีสินค้าและบริการของตัวเอง เราจะขายยังไง
ได้มากกว่าการผลิตคอนเทนท์
ที่รู้สึกว่าอยากไป ไม่อยากพลาด งานของ Uppercuz เพราะเมย์ฟังเจ๊แอ๊มพูดมาตลอด ถอดบทเรียนจริง มี Case Study จริง ลงลึก ไม่กั๊ก แล้วก็เกิดความอยากรู้ว่า “Uppercuz จะให้ความรู้ลูกค้าแบบไหนนะ”
พฤติกรรมผู้บริโภค
เปลี่ยนคนดู/ผู้ติดตาม/ลูกค้า ให้กลายเป็น Sale
พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนตลอด ยิ่งช่วงหลังเปลี่ยนเร็วมาก เราเห็น สังเกต และได้เรียนรู้มากแค่ไหน ?
สังเกตไหมว่าแทบทุกคน เลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มาบันทึกเหตุการณ์ตรงหน้า มากกว่าจะใช้สัมผัสดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ตรงนั้น ?
ทุกคนต้องการคอนเทนท์ อยากแชร์ อยากได้ Engagement ไม่ว่าจะเป็นช่องทางส่วนตัว หรือสาธารณะ
ประโยชน์ตรงนี้คือแบรนด์สามารถเปลี่ยนคนดู/ผู้ติดตาม/ลูกค้า ให้กลายเป็น Sale ของเราได้
ขอเพียงแค่สินค้า/บริการที่มีคุณภาพ ให้ประสบการณ์เกินความคาดหมาย และเปิดโอกาสให้คนได้เข้ามาสร้าง Content
Shoppertainment
มาจากคำว่า Shopping + Entertainment นึกภาพตามง่าย ๆ ก็ พิมรี่พาย หรือแม่ค้าออนไลน์ที่ชอบไลฟ์ขายของ
หลายออเดอร์ไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้ของ แต่ซื้อประสบการณ์
ใช้อารมณ์นำเหตุผล อย่างเห็นได้ชัด
Pay for Solution
ยอมจ่ายเพื่อแก้ปัญหา เช่น จ้างคนไปต่อคิว จ้างแมสไปรับของ จ้างในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ
Online Shopping Mindset
เริ่มคิดกันว่า ทุกอย่างหา และซื้อได้ในออนไลน์
สนับสนุนแบรนด์ที่ตัวเองชอบ
คนเลือกอุดหนุนสินค้า/บริการ จากพฤติกรรมที่ตัวเองชอบ ถ้าเป็นการเลือกข้าง แบรนด์ก็ต้องเลือกข้างอย่างชัดเจน ถ้ากลาง ๆ จะไม่อยู่ในสายตา หรืออาจโดนแบนจากทุกฝ่าย
กรณีดราม่า ควรอธิบาย และแสดงความรับผิดชอบ มากกว่าที่จะเฉย รอกระแสเงียบ
เหตุผลที่คนกด Block โฆษณา
- เห็นบ่อยเกิน
- ไม่เกี่ยวข้อง
- รำคาญ
- ขัดจังหวะ
- คิดว่าเป็น Virus
- กินพื้นที่หน้าจอมากเกินไป
FOMO : Fear of Missing Out
คนกลัวการตกกระแส ตกข่าว หรือพลาดอะไรบางอย่าง
Tiktok มาแรง เข้าไปทำการตลาดยังไงดี
คุณ Bie The Ska ให้น้ำหนัก Tiktok : Youtube คือ 50 : 50 คุณว่ามาแรงไหมล่ะ ?
Tiktok ฟีดคอนเทนท์แบบ Content Graph ดูว่าเรามี Engage กับ VDO แบบไหน แพลตฟอร์มก็จะส่งคอนเทนท์แบบนั้นมาให้เรา ทำให้ฟีดของแต่ละคน มีคอนเทนท์ที่ไม่เหมือนกัน แถมยังรู้ใจเราว่าชอบดูอะไรด้วย
สำหรับ New Account ไม่ต้องกลัวว่า Followers น้อยแล้วจะตามไม่ทัน เพราะถ้าคอนเทนท์ดี ก็ปังแบบหยุดฉุดไม่อยู่ ไวรัลกันได้ง่ายมาก ๆ
Tiktoker ชอบความเรียล เป็นตัวเอง จริงใจ น่าเชื่อถือ เข้าถึงง่าย เน้นกล้องมือถือ ไม่ต้องขึ้น Super สวยหรูให้ยุ่งยาก
ไม่ได้มีแค่คอนเทนท์เต้นอย่างเดียว คอนเทนท์ Entertain และให้ความรู้ก็เยอะมาก
Tiktok มีระบบ Search สำหรับค้นหาคลิป/หัวข้อที่เราอยากดู ซึ่งเค้าทำได้ดี ค้นตรง ค้นเจอ
Tiktok กลายเป็นที่สร้างเทรนด์ และในขณะเดียวกันเราก็ต้องอัพเดตเทรนด์ให้ทันด้วย
ดู Trend Tiktok จากไหน
- Hashtag
- Music
- Stickers
- Filters
- SEO
- อื่น ๆ
Tiktok เลือกฟีดจาก Engagement ที่เราทำ
- กดหัวใจ
- Following
- Comment
- ประเภท VDO ที่เราสร้าง
- VDO ที่เราดูจนจบ
- VDO ที่เรากด Favorite
วิธีสร้าง Content บน Tiktok ให้ปัง
- ใช้กล้องมือถือถ่าย ตัดต่อด้วยแอพบนมือถือ (ถ้าใช้ Capcut จะดี เพราะเป็นแอพในเครือ Tiktok)
- ดึงความสนใจตั้งแต่วินาทีแรก เน้นย่อยง่าย ไว ไม่อารัมภบท
- แคปชั่นสั้น ชวนให้คนสงสัย หรือมีคำถาม ปิดท้ายด้วย Hashtag ที่เกี่ยวข้อง
- โพสต์บ่อย สม่ำเสมอ
- เล่นบ่อย แทบตลอดเวลา (ทุก 30-60 นาที)
- คอนเทนท์ให้ความรู้ Relate กับชีวิตประจำวัน
- หาคอนเทนท์ที่เราทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ขั้นตอนเยอะ (ทั้งที่มาเนื้อหา การถ่ายทำ และตัดต่อ)
- ลงคอนเทนท์คุณภาพ อย่างมีวินัย ต่อเนื่อง แล้วใช้เงินเพิ่มการมองเห็น
- ต้องไว รู้เทรนด์เร็ว ทำคอนเทนท์เร็ว
การเลือกจ้าง Creator
- ดูที่ความคิดสร้างสรรค์
- Engagement
- กลุ่มผู้ติดตาม (เพศ/อายุ)
- คอมเม้นท์ของผู้ชม/ผู้ติดตาม
- ยอดวิวไม่สวิงมาก (โอกาส Performance ดี ก็จะตามค่าเฉลี่ย)
- มีความต่อเนื่องในการลงคอนเทนท์
- จ้างทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก
- ให้อิสระ กับ Creator (อาจจะเป็นการช่วยกันคิด มากกว่าให้พูด Key Message) เพราะการได้เป็นตัวเอง จะทำให้ Creator รักแบรนด์และอยากบอกต่อมากขึ้น รวมถึง Creator รู้จักกลุ่มผู้ติดตามของตัวเองมากกว่าด้วย
Facebook ไปต่อหรือพอแค่นี้ ?
แม้อัลกอริทึ่มจะปรับบ่อย ค่าแอดจะแพง แต่ทั้ง 3 ท่านก็ยังเห็นพ้องต้องกันว่าไปต่อ
- ถ้าลูกค้าของเราอยู่บน Facebook
- ถ้าเราสามารถสร้างสรรค์ Content โดยมีความเข้าใจกลุ่มลูกค้ามากพอ
- จุดเด่นอย่างการเป็น Community และความละเอียดในการลงโฆษณา ยังไม่หายไป
- มีทีม / มีงบประมาณ
สรุป Digital Marketing ปีหน้า ต้องยังไง ?
- โฟกัสที่ Creative Content เน้นคุณภาพ
- Short VDO มาทุกแพลตฟอร์ม
- ทำ 1 ชิ้น ลงทุกแพลตฟอร์มก็ได้ แต่ต้องรู้ว่าคลิปนี้เรากำลังสื่อสารกับใคร (ไม่ใช่สำหรับทุกคน เดี๋ยวไม่ทัช)
- Long Form ก็ไม่ทิ้ง เพราะเนื้อหาที่ละเอียด บางอย่างก็ไม่สามารถสั้นได้
- Inbound Marketing บ้าง ให้ Value สร้าง Trust แล้วค่อยปิดการขาย (อย่างจริงใจ)
- ไม่ Hard Sale ตั้งหน้าตั้งตาขายอย่างเดียว สร้างความสัมพันธ์ด้วย
- ทำ Performance Marketing
- Organic กับ Paid ควบคู่กัน
หลังจบงาน ก็ทักไปขอบคุณเจ๊แอ๊มอีกรอบ เพราะข้อมูลแน่นมาก ให้ลูกค้าแบบไม่กั๊กเลย (เนื้อ ๆ เมย์จดมาเกือบ 20 หน้า GoodNotes)
ชอบที่ Uppercuz เข้าใจทั้งแบรนด์ ลูกค้า แพลตฟอร์ม และ Creator อยากให้มีเอเจนซี่แบบนี้เยอะ ๆ เพราะจะเป็น Win-Win Situations สนุกตั้งแต่วางแผน ทำงาน และติดตามผล และสิ่งต่อสิ่งดี ๆ ให้ลูกค้า (End User)
ประมาณนี้ค่ะ เพิ่งไปงานตอนเช้า กลับมาก็รีบทำสรุปเลย อาจจะขาด ๆ เกิน ๆ หน่อยนะคะ เดี๋ยวมีสติแล้วจะมา Re-write ให้อีกที
เมย์ได้ไอเดียต่อยอดจากงานนี้เยอะมาก ได้คำตอบของคำถามหลายข้อที่ตีกันอยู่ในหัว หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่เข้ามาอ่านนะคะ