“นิยาย” ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในชีวิต

เคยได้ยินมาว่า .. หากอยากเริ่มอ่านหนังสือให้เริ่มจาก “ประเภท” ที่เราชอบ

เมย์ชอบอ่านนิยายค่ะ อ่านมาตั้งแต่มอต้น เริ่มจากนิยายกุ๊กกิ๊กหวานแหววของแจ่มใส หน้าปกการ์ตูน แล้วก็มีของสำนักพิมพ์อื่นบ้างประปราย ตั้งแต่เล่มบาง ๆ จนไปถึงหนา ๆ 500+ หน้า

แต่ตั้งแต่ที่เมย์เจอ “นิยาย” ของพี่แอลลี่ เมย์ก็ค่อย ๆ เลิกอ่านนิยายของคนอื่นไปโดยปริยายค่ะ

นิยายของพี่แอลลี่เป็นวรรณกรรมผู้ใหญ่ที่เมย์อ่านมาตั้งแต่อายุ 15

สมัยที่ยังเล่น MSN เมย์เคยแชทกับพี่แอลลี่ด้วย (หนึ่งครั้งถ้วน) คือชอบผลงานพี่เขามาก กรี๊ดมากกก

ก็รู้นะว่า ตอนนั้นอายุตัวเองยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะหนังสือประเภทนี้ แต่เมย์มีเหตุผลที่ทำให้เมย์เลิกอ่านนิยายของพี่แอลลี่ไม่ได้ซะที

นิยายพี่แอลลี่สนุก (มากก..) ไม่น้ำเน่า

ปกติเมย์จะชอบอ่านคำโปรยนิยายที่ปกหลังก่อน แล้วค่อยเลือกหยิบมาอ่าน แต่นิยายของพี่แอลลี่เป็นนักเขียนคนเดียวที่เมย์หยิบมาอ่านได้เลย โดยไม่ต้องอ่านปกหลังก่อน เพราะสนุกทุกเล่ม

พระเอกนางเอกไม่โง่ บางเรื่องนางเอกแสบมาก แก้แค้นตัวโกงได้อย่างมีชั้นเชิง บางเรื่องพระเอกก็แสบแก้เผ็ดแทนนางเอก

พี่แอลลี่ออกนิยายมาแล้ว 45 เล่ม เมย์ไม่เคยอ่านแค่ 3 เล่มแรก (หายาก) และตอนมอปลายเมย์ฝันว่าถ้าเข้ามหาวิทยาลัย “จะสะสมนิยายของพี่แอลลี่ให้ครบทุกเล่ม” ตอนอยู่ปี 4 มีนิยายของพี่แอลลี่เกือบ 30 เล่ม แต่ตอนนี้เหลือแค่ 5 เล่ม เสียใจมาก

นิยายพี่แอลลี่ข้อมูลแน่น

นิยายแต่ละเรื่องของพี่แอลลี่ จะมีคาแรคเตอร์ของพระเอกนางเอกที่แตกต่างกันไป รวมถึงอาชีพหรือวงสังคมในเล่มนั้น ๆ ด้วย แต่ทุกเล่มจะมีความสมจริงของอาชีพนั้น ๆ แฝงอยู่ คิดว่าก่อนลงมือเขียนพี่แอลลี่จะต้องค้นคว้าหนักมาก

ตอนม.6 เมย์เคยทำข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ได้เพราะนิยายของพี่แอลลี่

นิยายพี่แอลลี่ตัวละครเชื่อมกัน (เกือบ) ทุกเล่ม

นอกจากปกเล่มที่เป็นรูปดอกไม้ และชื่อนิยายที่มาจากชื่อตัวละครแล้ว เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของนิยายพี่แอลลี่คือตัวละครจะมีความสัมพันธ์กันข้ามเล่ม พระเอกเรื่องนี้ เป็นน้องของเรื่องนั้น เป็นศัตรูของเรื่องนี้ เป็นตัวท็อปในวงการนี้มีวีรกรรมในเล่มโน้น โอ้ย!! คือดี เป็นการขายของที่ดี เพราะมันทำให้เมย์ตามอ่านทุกเล่มเลย

เคยอยากเขียนแผนผังตัวละครให้ด้วยว่าใครสัมพันธ์กับใคร .. จริงจังมากนะ บอกเลย

นิยายพี่แอลลี่ให้แง่คิด

เนื่องจากนิยายของพี่แอลลี่มีข้อมูลที่ค่อนข้างแน่นและมีเนื้อหาที่ไม่น้ำเน่า ทำให้เมย์อ่านทีไรเมย์ก็จะได้ข้อคิดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพ การวางตัว มุมมองความคิด และเป็นที่มาความคิดที่ทำให้เมย์อยากจะเป็นหญิงเก่ง (สวยด้วย)

ความเก่งของตัวละครของพี่แอลลี่ ไม่ได้เก่งแบบก้าวกระโดด ไม่ได้เก่งแบบไม่มีที่มา กลับกันกลับเป็นการสะสมความเก่งทีละเล็กทีละน้อยตามลำดับขั้น และยังมีความแตกต่างของการฝึกให้ตัวเองเก่งในบริบทของสังคมหรือหน้าที่ทางสังคมที่แตกต่างกันไปอีกด้วย

เมย์มีตัวละครของพี่แอลลี่เป็นบุคคลต้นแบบหลายตัว แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เช่น ตอนนี้เมย์ทำงานสาย Event เมย์ก็จะมี “เพชรา” นางเอกจากเรื่อง “ฉัตรเพชร” เป็นไอดอล ถึงขึ้นส่งข้อความไปถามพี่แอลลี่เลยว่ามีใครเป็นต้นแบบของตัวละครเพชราหรือเปล่า

นิยายของพี่แอลลี่เป็นกำลังใจให้เมย์เสมอ

เมย์อ่านนิยายของพี่แอลลี่มาตั้งแต่ม.4-5 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ประมาณ 7-8 ปีแล้ว 30 กว่าเล่มที่ผ่านตา เล่มละไม่ต่ำกว่า 2 รอบ

เมย์จำโครงเรื่องได้ขึ้นใจ ทำให้พอถึงเวลาที่เมย์เจออุปสรรคหรือมีเรื่องให้ท้อใจ เนื้อเรื่องของนิยายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เมย์กำลังเผชิญก็จะโผล่ขึ้นมาในความคิดโดยอัตโนมัติ

เมย์ก็จะได้กำลังใจจากเรื่องนั้น ๆ ประมาณว่า “ตัวละครเรื่องนี้ยังผ่านสถานการณ์นี้ไปได้เลย แกก็ต้องผ่านไปได้สิวะ” หลายครั้งเมย์ก็นำวิธีการแก้ปัญหาของตัวละครมาประยุกต์ใช้ ซึ่งก็ได้ผลแทบทุกครั้งนะ

สนใจเรื่องผิว สกินแคร์ การเงิน การเดินทาง การใช้ชีวิต และการจดบันทึก