เปิดร้านบน IG ยังไง ให้ขายได้ ขายดี

เมย์เปิดร้านขายของบนไอจีได้ไม่กี่เดือน แต่ทำอย่างจริงจัง สองเดือนล่าสุดมียอดขายเพิ่มขึ้น 300% และ 400% ตามลำดับ รวมถึงเมย์เพิ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงาน Facebook ที่ดูแลเรื่อง Ads (โฆษณา) โดยเฉพาะ ได้คำตอบจากหลายสิ่งที่เมย์คิดประติดประต่อในหัว ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

บทความนี้เมย์จึงตั้งใจสรุปประสบการณ์มาให้ ว่าเมย์มีวิธีเปิดร้านขายของบน IG ยังไง ให้ขายได้ ขายดี

เมย์ขอข้ามวิธีการสร้างไอจี ตั้งชื่อร้าน หรือตั้งค่าต่าง ๆ นะคะ ขอเน้นที่ Concept การหารายได้เป็นหลักค่ะ

ซื้อโฆษณาบน IG แบบไหนดี

เริ่มที่หัวข้อนี้ละกัน เนื่องจากเราเป็นร้านขายของ อย่าไปรอไวรัลค่ะ คิดไว้เสมอว่า “มีคนเห็นสินค้าเรามากขึ้นเท่าไหร่ ยอดขายมากขึ้นเท่านั้น” ดังนั้น กดโปรโมทไปเลย

วิธีของเมย์ จะเลือกโปรโมทโพสต์ที่ปัง 1 โพสต์

กดโปรโมทโพสต์ > เลือกเป้าหมาย : เพิ่มจำนวนการเข้าชมโปรไฟล์ > กำหนดกลุ่มเป้าหมาย : อัตโนมัติ > ใส่งบประมาณต่อวัน แล้วเลือกระยะเวลา 1 เดือน

ไม่ต้องตั้ง 1 เดือนเหมือนเมย์ก็ได้นะ แต่ขั้นต่ำควร 7-10 วัน ที่เมย์ตั้ง 1 เดือน เพราะเมย์มั่นใจว่าโพสต์นี้ขายได้ และเมย์อยากวัดผลค่าโฆษณากับยอดขายเดือนต่อเดือน

กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติจริงดิ ? เพิ่มยอดขายได้จริงเหรอ ?

เพิ่มยอดขายได้จริง แต่ต้องทำข้อต่อ ๆ ไปด้วยนะ

ผู้ติดตามกลุ่มแรก

เริ่มจากผู้ติดตามกลุ่มแรกสำคัญมาก! ควรเป็นกลุ่มผู้ติดตามที่ต้องการสินค้าของเราจริง ๆ หรือเป็นลูกค้าที่เคยซื้อของเราแล้วยิ่งดี เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ

เพราะเมื่อเรามีฐานผู้ติดตามที่ใช่ เวลาเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติ ระบบจะทำการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมือนกับคนที่ติดตามไอจีของเราให้ (Look a like) ดังนั้น ถ้าฐานผู้ติดตามกลุ่มแรกเป็นลูกค้าของเราจริง ๆ ระบบก็จะหาลูกค้าในอนาคตให้เราได้แม่นมาก ๆ

และถ้าจะให้ดี ควรกรองให้กลุ่มผู้ติดตามเป็นลูกค้าของเราเสมอ เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ เพื่อให้การซื้อโฆษณาของเราแต่ละครั้งได้ราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด

กลุ่มเป้าหมายชัด

สินค้าแต่ละชิ้น มีลูกค้าได้หลายกลุ่มอายุ หลายกลุ่มอาชีพ แต่พอเป็นร้านออนไลน์ เราจะหว่านแหขนาดนั้นไม่ได้ เพราะต่อให้เงินทุนหนา แต่ผลตอบแทนที่ได้มันไม่ค่อยคุ้ม (ประเด็นคือเงินทุนน้อยนี่แหละ เลยต้องรีดทุกประสิทธิภาพ)

อีกอย่างนึงคือ เพื่อความปังเวลาปล่อยคอนเทนท์ เราควรจะรู้ว่า กลุ่มเป้าหมาย “ส่วนใหญ่” ของเราคือใคร พอรู้ปุ๊บ ทำคอนเทนท์เสิร์ฟเค้าค่ะ ตรง ๆ เลย

เมื่อคอนเทนท์เราตอบโจทย์ กลุ่มเป้าหมายใหญ่มี Action (กด Like กดแชร์ กด Save นับหมด) ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้ร้านของเราได้ เวลากดโปรโมทโพสต์ ค่าโฆษณาก็จะถูกลง หรือราคาเท่าเดิม แต่การมองเห็นมากขึ้น

คอนเทนท์ตอบโจทย์

เมย์จะโปรโมทโพสต์แค่เดือนละ 1 โพสต์ (ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน อย่างเดือนกันยายน ที่ Facebook ได้ทำการเปลี่ยน Policy ทำให้โปรโมทโพสต์ไม่ได้หลายวัน จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ยอดขาย แต่ถ้าแบบที่เวิร์คที่สุดของร้านเมย์ ก็ตามที่สรุปมาให้นี่แหละค่า)

แม้ว่าโพสต์อื่น ๆ จะไม่ได้โปรโมท เมย์ก็จะให้ความสำคัญอยู่ดี

ร้านเมย์ไม่ได้ขายดีไซน์ ดังนั้น การคุมโทนร้าน เป็นเรื่องรอง ที่ถ้าสามารถทำได้ก็ดี (ตอนนี้ก็พยายามปรับอยู่)

แต่เรื่องคอนเทนท์ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายบอกเลยว่าปังมาก (อวยตัวเอง 5555) เข้าไปดูได้ ยอดกด Like ไม่เยอะ แต่ยอด Save ทะลุยอด Like นะคะ

เมย์ให้ความสำคัญกับยอด Save มากกว่า ยอด Like นะ เพราะมองในมุมผู้บริโภค การกด Save สินค้า คือจะเอาแล้วอ่ะ จดลิสต์ไว้แล้ว

ทุกคอนเทนท์ ทั้งโปรโมทและไม่โปรโมท เมย์จะคิดแล้วคิดอีก ว่าคนที่จะมามีส่วนร่วมคือใคร เค้าคาดหวังอะไรจากโพสต์หรือจากร้าน

คือนอกจากคอนเทนท์จะปังแล้ว ต้องกรองกลุ่มเป้าหมายเสมอ ว่าผู้ติดตามของเรา คือลูกค้าในอนาคตแน่ ๆ

สรุป

  1. มีสินค้า เปิดไอจี ตั้งค่าเป็น Business ให้เรียบร้อย
  2. หาผู้ติดตาม 100 คนแรก ที่ (จะ) เป็นลูกค้าของเราจริง ๆ
  3. สร้างโพสต์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ และโฟกัสที่กลุ่มนี้ (ทำให้ได้ทุกวัน)
  4. สร้างโพสต์ปัง ที่ขายของได้ด้วย (เดือนละ 1 โพสต์)
  5. โปรโมทโพสต์ขายของแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติ

แค่นี้เลยค่ะ ยอดขายปังมาก

เมย์ไม่ได้ตื่นเต้นที่สามารถหายอดขายได้เดือนละครึ่งแสนอย่างเดียว แต่เมย์ตื่นเต้นที่เจอระบบการทำงาน ที่เมย์เข้าใจ และได้รับการยืนยันว่าความเข้าใจของตัวเองถูกต้องจากทีมงาน Facebook Malaysia ที่ดูแล Ads (โฆษณา) โดยเฉพาะ

ตอนนี้ นอกจากจะดูแลร้าน เมย์ก็มองหาสินค้าตัวใหม่ไปด้วยค่ะ

สนใจเรื่องผิว สกินแคร์ การเงิน การเดินทาง การใช้ชีวิต และการจดบันทึก